มีสิทธิรับมรดกแต่ไม่ได้รับค่าอุปการะ ?

มีสิทธิรับมรดกแต่ไม่ได้รับค่าอุปการะ ?

บทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้โดยตรง คือ

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 443 ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้น ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่าปลงศพรวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆ อีกด้วย

…………………..

ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลคนหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายไปด้วยไซร้  ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา 1563 บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา

มาตรา 1564 บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์

 

มีสิทธิรับมรดกแต่ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดไร้อุปการะเพราะไม่มีหน้าที่ดูแล

บุตรที่เกิดจากบิดามารดาไม่ได้สมรสกันตามกฎหมาย  ย่อมเสียสิทธิในการได้รับค่าขาดไร้การอุปการะเลี้ยงดูเมื่อมีบุคคลอื่นทำให้บิดาตาย  เพราะเป็นบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

กรณีตามประเด็นดังกล่าวมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ศึกษาเป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9210/2556

………ป.พ.พ. มาตรา 443 วรรคสาม  กำหนดให้ผู้กระทำละเมิดในกรณีทำให้เขาถึงตายรับผิดต่อบุคคลที่ต้องขาดไร้อุปการะเฉพาะที่ผู้ตายมีหน้าที่อุปการะตามกฎหมายเท่านั้น  แต่โจทก์ร่วมเป็นบุุตรของผู้ตายกับ ป. ซึ่ง ป. ให้การชั้นสอบสวนว่าผู้ตายกับ ป. ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แม้ผู้ตายแจ้งการเกิดของโจทก์ร่วมว่า โจทก์ร่วมเป็นบุตรของผู้ตาย และตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าผู้ตายยินยอมให้โจทก์ร่วมใช้ชื่อสกุลอันถือว่าโจทก์ร่วมเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วตามมาตรา 1627 ก็ตาม  แต่ตามมาตรา 1563 และมาตรา 1564  ที่บัญญัติให้บุตรและบิดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูกันนั้นหมายถึงบุตรและบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น  ไม่มีบทบัญญัติกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้บิดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรนอกกฎหมาย  ดังนั้นแม้โจทก์ร่วมซึ่งเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วจะเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของบิดาได้  แต่ก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากบิดา โจทก์ร่วมจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลย ซึ่งเป็นผู้กระทำละเมิดให้บิดาของตนถึงแก่ความตายได้คงมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวกับการปลงศพและค่าเสียหายแก่รถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ที่เป็นทายาทจะเรียกร้องเอาแก่ผู้ที่กระทำละเมิดทำให้เจ้ามรดกถึงแก่ความตายเท่านั้น

 

ดังนั้นพอสรุปได้ว่ามีสิทธิรับมรดกแต่ไม่ได้รับค่าอุปการะ