หน้าที่ระหว่างสามีภริยาในการอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่คู่สมรสของตนวิกลจริต

หน้าที่ระหว่างสามีภริยาในการอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่คู่สมรสของตนวิกลจริต

หน้าที่ระหว่างสามีภริยาในการอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่คู่สมรสของตนวิกลจริต

การที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกลายเป็นคนวิกลจริตโดยไม่ว่าจะถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือไม่ก็ตาม คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งมีหน้าที่จะต้องให้ความอุปการะเลี้ยงดูและกระทำการตามสมควร เช่น ภริยาเกิดวิกลจริตสามีก็มีหน้าที่ต้องจัดให้มีการรักษาและจัดการป้องกันไม่ให้สามีเกิดอันตรายจากได้ เป็นต้น หากไม่กระทำการดังกล่าวผู้มีส่วนได้เสียอื่นใดหรือพนักงานอัยการย่อมมีอำนาจฟ้องคู่สมรสฝ่ายที่ไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดูนั้นให้ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูและขอให้ศาลมีคำสั่งใดๆ เพื่อคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตได้ ตามมาตรา 1464 โดยในกรณีที่ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่คู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตนั้นสามารถมีคำขอไปในคดีเดียวกันให้ศาลมีคำสั่งให้คู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถและตั้งผู้อนุบาลได้ แต่ถ้าในกรณีที่คดีนั้นคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตนั้นถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถอยู่แล้วโจทก์จะขอให้ศาลถอดถอนผู้อนุบาลคนเดิมและแต่งตั้งผู้อนุบาลคนใหม่ก็ได้ เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าผู้อนุบาลคนเดิมละเลยหน้าที่ที่จะอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรสที่เป็นคนไร้ความสามารถนั้น

อย่างไรก็ดีถ้าโจทก์ฟ้องเพียงขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตโดยไม่ได้เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูเข้ามาด้วยเช่นฟ้อง แต่เพียงขอให้พาคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตไปรับการรักษาพยาบาลเท่านั้นโจทก์มีสิทธิที่จะทำได้โดยไม่จำเป็นต้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้คู่สมรสที่วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ความสามารถหรือถ้าคู่สมรสที่วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ความสามารถอยู่แล้วจะไม่ขอให้เปลี่ยนตัวผู้อนุบาลก็ได้เว้นแต่ศาลจะเห็นสมควรที่จะสั่งเช่นว่านั้นภริยาเกิดวิกลจริตชอบเดินออกไปเที่ยวเล่นนอกถนนสามีเกรงว่าจะถูกรถยนต์ชนจึงล่ามโซ่ไว้ในบ้านและจัดหาอาหารเครื่องนุ่งห่มและเครื่องใช้อย่างดี แต่สามีไม่ยอมให้ภริยาไปอยู่โรงพยาบาลบิดาภริยาทราบเหตุเข้าหากประสงค์จะให้ภริยาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลโรคจิตก็สามารถทำได้โดยการยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรา 1464 นี้เพราะถือได้ว่าสามีมิได้กระทำการตามสมควรเป็นเหตุให้ภริยาซึ่งวิกลจริตตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเป็นภัยทางจิตใจเป็นต้น

ในระหว่างที่ศาลกำลังพิจารณาคดีเพื่อคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตอยู่นี้โจทก์อาจร้องขอต่อศาลให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเกี่ยวกับการอุปการะเลี้ยงดูหรือการคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตได้ตามที่เห็นสมควรตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1464/1 เช่น ขอให้ศาลมีคำสั่งให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตเป็นรายเดือนเป็นการชั่วคราว หรือขอให้ศาลมีคำสั่งให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตเป็นบาทเป็นการชั่วคราวหรือขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำคู่สมรสที่วิกลจริตไปรับการบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลโรคจิตโดยเร็วก็ได้และถ้าหากเป็นกรณีมีคำสั่งเพื่อคุ้มครองคู่สมรสฝ่ายที่วิกลจริตได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอฟังคู่สมรสผู้เป็นจำเลยฉุกเฉินโจทก์จะมีคำขอในเหตุฉุกเฉินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งให้ศาล แต่อย่างใดเช่นสามีจับภริยาที่วิกลจริตล่ามโซ่และให้รับประทานอาหารเพียงวันละมือเดียวบิดาของภริยาอาจขอให้เหตุฉุกเฉินให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งให้สามีปล่อยภริยาโดยให้ภริยาอยู่ในความดูแลของบิดาในทันทีในวันนั้นก็ได้หรือภริยาเกิดวิกลจริตสามีพาไปหาหมอไสยศาสตร์รักษาโดยวิธีใช้หวายอาบน้ำมนต์เฆี่ยนภริยามาสามวันสามคืนแล้วและกำลังจะเพี้ยนต่อไปอีกดังนี้มารดาของภริยามีสิทธิร้องขอในเหตุฉุกเฉินให้ศาลสั่งห้ามสามีรักษาโรคโดยวิธีการนี้ได้เป็นต้น

 

มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายความแสงวรรณ
ทนายความแสงวรรณ เรือนเครือ
72/122 ม.7 ซ.8 ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000
โทร 084-5795609