ออกเช็คชำระหนี้การพนัน มีความผิดทางอาญาหรือไม่

ออกเช็คชำระหนี้การพนัน มีความผิดทางอาญาหรือไม่

ออกเช็คชำระหนี้การพนัน มีความผิดทางอาญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2526

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยออกเช็คชำระหนี้ที่เข้าหุ้นเล่นการพนันแทนสามี จึงไม่มีมูลหนี้ตามกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยออกเช็คเพราะถูกบีบบังคับ การกระทำของจำเลยขาดเจตนาทุจริตอันจะเป็นความผิดในทางอาญา พิพากษายืน โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อที่โจทก์อ้างว่า เช็คหมาย จ.1มีมูลหนี้ โดยจำเลยออกชำระหนี้ให้แก่จ่าสิบตำรวจประพนธ์ อนุพงษ์พันธุ์แล้วจ่าสิบตำรวจประพนธ์นำมาแลกเงินสดกับโจทก์ โจทก์คงมีแต่ตัวโจทก์เบิกความ หาได้มีพยานสนับสนุนและมีหลักฐานประกอบข้ออ้างไม่ แต่จำเลยว่า จำเลยออกเช็ค 6 ฉบับ รวมทั้งเช็คหมาย จ.1 ชำระหนี้การพนันให้จ่าสิบตำรวจประพนธ์แทนสามี จำเลยมีนายย่งจั๊วสามีเบิกความสนับสนุนจำเลยนำสืบได้ความว่า นายย่งจั๊วเปิดบ่อนการพนันกำถั่วและไพ่นกกระจอกที่สโมสรกรุงเทพ ถนนเสือป่าเมื่อปี พ.ศ. 2521 จ่าสิบตำรวจประพนธ์ได้เข้าหุ้นกับนายย่งจั๊วเล่นการพนัน พอปลายปี พ.ศ. 2522 ได้คิดบัญชีกันนายย่งจั๊วจะต้องชำระหนี้การพนันให้จ่าสิบตำรวจประพนธ์ 1,500,000 บาทแต่นายย่งจั๊วไม่มีเงินและเช็คจะออกชำระให้ จ่าสิบตำรวจประพนธ์ให้จำเลยออกเช็คชำระแทน จำเลยไม่มีเช็คเพราะธนาคารงดจ่ายเช็คให้เนื่องจากจำเลยออกเช็คไม่มีเงินบ่อย จ่าสิบตำรวจประพนธ์ให้จำเลยเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาศรีย่าน โดยให้เสี่ยยู๊หรือนายณรงค์ ตันวีระพงษ์ศิริออกเงินเปิดบัญชีให้ 20,000 บาท เมื่อเปิดบัญชีและได้รับสมุดเช็คแล้ว จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้นายณรงค์ 20,000 บาท ข้อนี้นายณรงค์เบิกความรับในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 8721/2523 เอกสารหมาย ล.1 และปรากฏตามบัญชีเงินฝากของจำเลยหมาย จ.6 ว่า ได้มีการเบิกเงินจากบัญชีโดยเช็คเลขที่ 1078621 ซึ่งเป็นเช็คที่จำเลยได้รับจากธนาคารเพราะเปิดบัญชีเงินฝากดังกล่าวเป็นเงิน 20,000 บาท เป็นการเจือสมข้อนำสืบของจำเลย และเช็ค 6 ฉบับรวมทั้งเช็คหมาย จ.1 ที่จำเลยออกให้จ่าสิบตำรวจประพนธ์เป็นเช็คที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาศรีย่านจ่ายให้จำเลย ทั้งจำเลยมีนายประคอง เอี๊ยวซีโปผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาศรีย่าน เป็นพยานว่า นายณรงค์เป็นผู้แนะนำจำเลยเปิดบัญชีเงินฝาก วันจำเลยเปิดบัญชี นายณรงค์และจ่าสิบตำรวจประพนธ์มาด้วยและอยู่ด้วยกับจำเลยตลอดเวลา จำเลยรู้จักแต่จ่าสิบตำรวจประพนธ์ข้อเท็จจริงเชื่อว่าจ่าสิบตำรวจประพนธ์จัดการให้จำเลยเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาศรีย่าน เพื่อได้เช็คมาสั่งจ่ายเงินให้ตามความประสงค์ของจ่าสิบตำรวจประพนธ์ เหตุที่จำนวนเงินตามเช็ค 6 ฉบับมากกว่าจำนวนหนี้การพนันของนายย่งจั๊ว ก็คงเป็นเพราะจำเลยสั่งจ่ายให้ตามความประสงค์ของจ่าสิบตำรวจประพนธ์ ส่วนที่โจทก์อ้างว่าเช็คหมาย จ.5 จำนวน 19 ฉบับ จ่าสิบตำรวจประพนธ์ออกให้ในการรับแลกเช็คจากจำเลย แต่โจทก์ไม่มีเช็คที่อ้างว่ารับแลกมาเป็นหลักฐาน ทั้งจำนวนเงินตามเช็คหมาย จ.5 กับเช็ค 6 ฉบับก็ต่างกันมาก การที่จำเลยว่าจ่าสิบตำรวจประพนธ์ออกเช็คให้นายย่งจั๊วเมื่อเล่นการพนันได้ และออกเช็คจ่ายแทนนายย่งจั๊วเวลาเล่นการพนันเสียนั้น ก็เป็นไปได้ไม่ผิดวิสัย เพราะออกเช็คให้แทนจ่ายเงินสด มูลเหตุจำเลยต้องออกเช็ค 6 ฉบับให้จ่าสิบตำรวจประพนธ์ก็ได้ความจากข้อนำสืบของจำเลยว่า นายย่งจั๊วติดเสพฝิ่น จ่าสิบตำรวจประพนธ์ขู่ว่าจะจับ และได้ความจากพันตำรวจโทตุล ญาณสุคนธ์ พยานจำเลยว่า เมื่อจำเลยถูกจับ จำเลยได้พูดกับจ่าสิบตำรวจประพนธ์ว่าจ่าสิบตำรวจประพนธ์ก็รู้อยู่เต็มอกว่าหนี้ตามเช็คเป็นหนี้ของสามีจำเลยคดีจึงมีเหตุผลให้เชื่อว่าจำเลยออกเช็คหมาย จ.1 เพื่อชำระหนี้อันเกิดจากการพนันซึ่งตามกฎหมายหามีมูลหนี้ไม่ ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 3322-3323/2525 ระหว่างจ่าสิบตำรวจประพนธ์ อนุพงษ์พันธุ์ โจทก์นางประทุม บัณฑิตลักษณะ จำเลย ดังนั้น โจทก์จะรับเช็ค หมาย จ.1 ไว้ด้วยประการใดก็ตาม การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง”

พิพากษายืน

สรุป
ป. กับ ย. สามีจำเลยเข้าหุ้นเล่นการพนัน เมื่อคิดบัญชี ย.ต้องชำระหนี้การพนันให้ ป. แต่ไม่มีเงินและเช็คจะออกชำระให้ ป.ให้จำเลยชำระแทน โดยจัดการให้จำเลยเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ธนาคารแล้วจำเลยออกเช็คชำระหนี้อันเกิดจากการพนันให้ ป. ซึ่งตามกฎหมายหามีมูลหนี้ไม่แม้โจทก์จะรับเช็คดังกล่าวไว้ด้วยประการใดก็ตาม เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ